อาร์เมเนีย (Armenia)

 

 

 

รูปจาก www.maps.com

 

 

ข้อมูลพื้นฐาน

 
ที่ตั้ง

อยู่ทางตอนใต้ของเทือกเขา Transcaucasus ระหว่างทะเลดำและทะเลสาบแคสเปียน
(ไม่มีทางออกทะเล)

ทิศเหนือ จรดพรมแดนจอร์เจีย ทิศใต้จรดพรมแดนอิหร่าน

ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จรดพรมแดนอาร์เซอร์ไบจาน ทิศตะวันตกจรดพรมแดนตุรกี

ทิศตะวันออกเฉียงใต้ จรดเขตนากิเชวันของอาร์เซอร์ไบจาน

 
พื้นที่
29,800 ตารางกิโลเมตร ประมาณร้อยละ 80 เป็นเทือกเขา เป็นประเทศขนาดเล็กที่สุดในกลุ่มสาธารณรัฐ Transcaucasus
 
เมืองหลวง
กรุงเยเรวาน (Yerevan : 1.1 ล้านคน)
 
ประชากร

3.2 ล้านคน (กรกฎาคม 2544)

สัญชาติ อาร์เมเนีย

 
กลุ่มเชื้อชาติ
ชาวอาร์เมเนีย ร้อยละ 95 ที่เหลือได้แก่ ชาวอาเซอรี ชาวเคิร์ด ชาว Yezid ชาว Assyrian ชาวยิว
และชาวกรีก
 
ภาษา

ภาษาอาร์เมเนีย และภาษารัสเซีย

 
ศาสนา

คริสต์ นิกายอาร์เมเนียนออร์โธดอกซ์ (ร้อยละ 94)

 
เวลา
เร็วกว่ามาตรฐาน GMT 5 ชั่วโมง (ช้ากว่าไทย 2 ชั่วโมง)
 
สกุลเงิน

Dram (ใช้เมื่อ 22 พฤศจิกายน 2536) 1 Dram = 100 luma

ประมาณ 451.08 AMD = 1 USD (มีนาคม 2548)

 
วันชาติ
 21 กันยายน (วันเดียวกับวันประกาศเอกราชจากสหภาพโซเวียตใน ปี 2534)
 
ภูมิอากาศ

แห้งแบบภาคพื้นทวีป หน้าหนาวหนาวเย็น หน้าร้อนร้อนจัดมีฝนตกหนักบริเวณภูเขา

 
ทรัพยากรธรรมชาติ
ทองคำ ทองแดง อลูมิเนียม
 
 

การเมืองการปกครอง

 
รูปจาก www.president.am
 

                เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2003 ประธานาธิบดี Kocharian ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแน่งประธานาธิบดีเป็นครั้งที่สอง ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากพรรคฝ่ายค้านว่าการเลือกตั้งไม่โปร่งใส และมีการประท้วงผลของการเลือกตั้งจากประชาชน

                การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2003 เห็นชัยชนะของพรรคRepublican party ซึ่งใกล้ชิดกับประธานาธิบดี Kocharian รัฐบาลชุดใหม่เป็นรัฐบาลผสมระหว่างพรรค Republican Party พรรค  the Party Dashnaktsutian และพรรค the Centre Right Party Country of Law และนับเป็นครั้งแรกหลังจากที่อาร์เมเนียเป็นอิสรภาพที่พรรคคอมมิวนอสต์ไม่ได้รับการเลือกตั้ง

 
ระบบการเมือง
สาธารณรัฐประชาธิปไตย โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุข อยู่ในตำแหน่งวาระละ 5 ปี ประธานาธิบดีคนเดียวกันจะดำรงตำแหน่งได้ไม่เกินสองวาระ มีอำนาจในการบริหารประเทศ และเป็นผู้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจำนวน 25 คน ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ

 
เขตการปกครอง
แบ่งเป็น 10 จังหวัด และ 1 เมือง (Yerevan)
 
ประมุขและ
หัวหน้ารัฐบาล
นาย Robert Kocharian (5 มีนาคม 2547)
 
นายกรัฐมนตรี
นาย Andranik Markaryan (20 พฤษภาคม 2543)
 
รัฐมนตรีต่างประเทศ
นาย Vartan Oskanian (20 เมษายน 2541)
 

สถาบันทางการเมือง

                 ฝ่ายนิติบัญญัติ

                ระบบสภาเดียว คือ สภาแห่งชาติ มีการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาทุก ๆ 4 ปี มี 131 ที่นั่ง โดยแบ่งเป็นแบบเขตเดียวคนเดียว (one-mandate electoral districts) จำนวน 75 ที่นั่ง และแบบบัญชีรายชื่อ (party lists) จำนวน 56 ที่นั่ง โดยมีการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2547 และพรรค Republican Party ได้คะแนนสูงสุด การเลือกตั้งครั้งต่อไปจะมีขึ้นในปี 2550

               ฝ่ายบริหาร
                1. ประธานาธิบดีเป็นประมุข อยู่ในตำแหน่งวาระละ 5 ปี ประธานาธิบดี คนเดียวกันจะดำรงตำแหน่งได้ไม่เกินสองวาระ มีอำนาจในการบริหารประเทศ และเป็นผู้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจำนวน 25 คน ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ

*ผลการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคม 2541 นาย Robert Kocharian ได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนร้อยละ 67.5
* การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อไปจะมีขึ้นในเดือนมีนาคม 2551

                2. นายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งประธานาธิบดีจะเป็นผู้เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีต่อรัฐสภา และนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้เสนอชื่อคณะรัฐมนตรีต่อประธานาธิบดี โดยคณะรัฐมนตรีประกอบด้วยรัฐมนตรี 25 คน (21 กระทรวง)

               ฝ่ายตุลาการ

                ศาลฎีกา (9 คน)

                ศาลรัฐธรรมนูญ (9 คน)

 

พรรคการเมือง

Republican Party of Armenia (HHK)
People’s Party of Armenia (HZhK)
Communist Party of Armenia
Block “Iravunk ev Miabanutiun” (Law and Unity)
Armenian Revolutionary Federation “Dashnaktsutiun”
“Orinats Yerkir” (Country of Law)
National Democratic Union (เรียงตามลำดับเสียงในสภาปัจจุบัน)

 

สมาชิกภาพองค์การระหว่างประเทศ

BSEC, CCC, CE (guest), CIS, EAPC, EBRD, ECE, ESCAP, FAO, IAEA, IBRD, ICAO, ICRM, IDA, IFAD, IFC, IFRCS, ILO, IMF, Intelsat, Interpol, IOC, IOM, ISO, ITU, NAM (observer), OPCW, OSCE, PFP, UN,UNCTAD, UNESCO, UNIDO, UPU, WFTU, WHO, WIPO, WMO, WTO (tourism), WTO (applicant)

 
 
เศรษฐกิจการค้า
 
 
GDP per capita (p.p.p.)
548 ดอลลาร์สหรัฐ (มกราคม 2545)
 
GDP (PPP)
2.084 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (มกราคม 2545)
 
อัตราการเจริญเติบโตของ GDP
ประมาณร้อยละ 5.6 (2544)
 
การขยายตัวของเศรษฐกิจ
ร้อยละ 9.6 (2544)
 
อัตราการเจริญเติบโตของผลผลิตภาคอุตสาหกรรม
ร้อยละ 3.8 (2544)
 
หนี้ต่างประเทศ
836 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2544)
 
อัตราเงินเฟ้อ
ร้อยละ 3.1 (2544)
 
อัตราการว่างงาน
ร้อยละ 9.9 (2544)
 
มูลค่าการส่งออก
342.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2544)
 
มูลค่าการนำเข้า
874.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2544)
 
ดุลการค้า
ขาดดุล 530 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2544)
 
ประเทศคู่ค้าสำคัญ
สหภาพยุโรป รัสเซีย สหรัฐฯ อิหร่าน อิสราเอล จอร์เจียและยูเครน
 
แหล่งส่งออกสำคัญ
เบลเยี่ยม อิหร่าน รัสเซีย สหรัฐฯ เติร์กเมนิสถาน จอร์เจีย
 
แหล่งนำเข้าสำคัญ
รัสเซีย สหรัฐอเมริกา เบลเยี่ยม อิหร่าน สหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป ตุรกี
 
สินค้าเข้าสำคัญ
ก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน ยาสูบ รองเท้า อาหาร และพลังงานอื่นๆ
 
สินค้าออกสำคัญ
เพชร ทองคำ อัญมณี อุปกรณ์การขนส่ง โลหะ เครื่องจักร อะลูมิเนียม อุปกรณ์อิเล็คโทรนิคส์ บรั่นดี
 
 

ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสาธารณรัฐอาร์เมเนีย

 
 
 

ความสัมพันธ์ทางการทูต

          หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในช่วงปลายปี 2534 สาธารณรัฐต่าง ๆ ซึ่งเคยรวมเป็นสหภาพโซเวียตได้แยกตัวออกเป็นอิสระและประกาศตัวเป็นเอกราช รวม 12 ประเทศ ได้แก่ รัสเซีย ยูเครน เบลารุส คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน จอร์เจีย อาร์เมเนีย อาเซอร์ไบจาน เติร์กเมนิสถาน ทาจิกิสถาน คีร์กิซ และมอลโดวา ซึ่งไทยได้ให้การรับรองเอกราชของประเทศเหล่านี้เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2534 ต่อมา ประเทศเหล่านี้ได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (Commonwealth of Independent States) หรือ CIS

          ประเทศไทยได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐอาร์เมเนีย เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2535 โดยทั้งสองฝ่ายยังมิได้เปิดสถานเอกอัครราชทูตในเมืองหลวงของกันและกัน ฝ่ายไทยได้มอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก มีเขตอาณาครอบคลุมอาร์เมเนีย และต่อมาเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2542 ไทยได้เปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำอาร์เมเนีย โดยมีนายอาร์ทัวร์ มครัตชยาน (Artur Mkrtchyan) สัญชาติอาร์เมเนีย ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำสาธารณรัฐอาร์เมเนีย

          เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2541 รัฐบาลไทยได้อนุมัติให้อาร์เมเนียเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำประเทศไทย โดยมีนายโนแรร์ เดอ เคโวเคียน (Norair Der-Kevorkian) สัญชาติอังกฤษ ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์อาร์เมเนียประจำประเทศไทย

การแลกเปลี่ยนการเยือนที่สำคัญ

การเยือนของฝ่ายไทย

- นายสวนิต คงสิริ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะผู้แทนกระทรวงฯ เยือนอาร์เมเนียเป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 1-3 มิถุนายน 2542 โดยได้ร่วมลงนามพิธีสารว่าด้วยการปรึกษาหารือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศไทย-อาร์เมเนีย (Protocol on Consultations between the Ministry of Foreign Affairs of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Foreign Affairs of the Republic of Armenia) กับนาย Armen Baibourdian รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาร์เมเนีย เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2542 และได้เข้าเยี่ยมคารวะและหารือกับนาย Vartan Oskanian รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาร์เมเนีย นาย Vladimir M. Movsisyan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรอาร์เมเนีย นาย Galik R. Arzumanyan รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง การคลังและเศรษฐกิจ และนาย Aram Vardanyan ประธาน สหภาพผู้ผลิตและนักธุรกิจอาร์เมเนีย

- ออท. ณ กรุงมอสโก ยื่นพระราชสาส์นต่อประธานาธิบดีอาร์เมเนียในวันที่ 27 พ.ย. 2546

- กลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-อาร์เมเนีย เยือนอาร์เมเนียระหว่างวันที่ 20-28 กรกฎาคม 2547

– นายวีระชัย วีระเมธีกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรี เยือนอาร์เมเนีย ระหว่างวันที่ 7-9 กันยายน 2548 เพื่อหารือเกี่ยวกับ Joint Action Plan

- นายยงยุธ วิชัยดิษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมงาน 5th ArmProExpo ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 6 พฤศจิกายน 2548

การเยือนของฝ่ายอาร์เมเนีย

- นาย Vartan Oskanian รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนที่ 1 เดินทางเยือนประเทศไทย เมื่อวันที่ 21-24 พฤษภาคม 2540 เพื่อเยี่ยมเยียนชาวอาร์เมเนียในประเทศไทย และหารือประเด็นทวิภาคีไทย-อาร์เมเนีย กับ นายพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

- นาย Ashot Melki-Shahnazarian เอกอัครราชทูตสัญจรแห่งอาร์เมเนียเข้าพบหารือประเด็นความสัมพันธ์ทวิภาคี และแจ้งความคืบหน้ากรณีดินแดนนากอร์โน-คาราบัค กับนายอภินันท์ ปวนะฤทธิ์ อธิบดีกรมยุโรป เมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม 2541 ณ วังสราญรมย์

- นาย Armen Baibourdian รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางเยือนประเทศไทยเมื่อวันที่ 19-22 กรกฎาคม 2542 เพื่อกระชับความสัมพันธ์และหารือประเด็นทวิภาคีไทย-อาร์เมเนียกับ ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยระหว่างการเยือน นาย Baibourdian ได้มีโอกาสพบหารือกับนายอนุรักษ์ จุรีมาศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อมด้วย โดยในโอกาสเดียวกันนี้ นาย Baibourdian ได้มอบร่างความตกลงทวิภาคี 2 ฉบับ คือ ความตกลงว่าด้วยการเว้นการตรวจลงตราผู้ถือหนังสือเดินทางทูต ราชการ และพิเศษ ระหว่างกัน (Agreement Concerning the Mutual Exemption of Visas of Diplomatic and Official/Service or Special Passports) และความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตรไทย-อาร์เมเนีย (Agreement on Agricultural Cooperation) ให้ฝ่ายไทยพิจารณา

- นาย Vartan Oskanian รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาร์เมเนีย เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา ครั้งที่ 10 (UNCTAD X) ในปี 2543 ที่ประเทศไทย

- นาย Tatoul Markarian รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาร์เมเนีย เดินทางเยือนประเทศไทย ระหว่างวันที่ 5-8 พฤศจิกายน 2544 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกัน หาลู่ทางการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน และร่วมลงนามในอนุสัญญาเพื่อเว้นการเก็บภาษีซ้อนระหว่างไทยกับอาร์เมเนีย รวมทั้งมอบสารจากนาย Vartan Oskanian รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาร์เมเนีย เชิญ ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ เยือนอาร์เมเนีย ทั้งนี้ นอกจากการเข้าเยี่ยมคารวะและหารือกับ ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ และหารือกับ ฯพณฯ ดร. ประชา คุณะเกษม ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการฯ แล้ว นาย Markarian ยังได้พบหารือกับ ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล ผู้แทนการค้าไทย นอกจากนี้ได้หารือกับ น.พ. วินัย สวัสดิวร รองอธิบดีกรมการแพทย์ เรื่องความร่วมมือในการผลิตยา “Armenicum” ซึ่งเป็นยารักษาโรค AIDs ที่อาร์เมเนียค้นพบ และหารือกับนายอภิชัย การุณยวาณิชย์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในเรื่องความร่วมมือในการทำฝนเทียม

- นาย Andranik Margaryan นายกรัฐมนตรีเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการแบบ working visit ระหว่างวันที่ 9-13 มิถุนายน 2548

ความสัมพันธ์ด้านการเมือง

          ไทยกับอาร์เมเนียไม่มีปัญหาทางการเมืองหรือข้อขัดแย้งใดๆ ความสัมพันธ์ระหว่างกันราบรื่น แม้ว่าจะมีการปฏิสัมพันธ์ไม่มากนัก ไทยและอาร์เมเนียได้จัดตั้งกลุ่มมิตรภาพระหว่างสมาชิกรัฐสภาไทย-อาร์เมเนีย (Thaialand-Armenia Parliamentarians Friendship Group) ขึ้น ซึ่งจะเป็นกลไกที่ช่วยขยายความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศไปสู่มิติด้านนิติบัญญัติและการเมืองได้เป็นอย่างดีในกรอบของความสัมพันธ์พหุภาคี ซึ่งอาเซอร์ไบจานและอาร์เมเนียมีประเด็นพิพาทในเรื่องดินแดน Nargorno-Karabakh ซึ่งเป็นประเด็นที่ยืดเยื้อและไม่สามารถหาข้อยุติได้ และทั้งสองฝ่ายได้หยิบยกข้อพิพาทดังกล่าวขึ้นต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติทุกปี ที่ผ่านมาไทยได้ดำเนินนโยบายต่อสองประเทศ โดยเฉพาะในประเด็นข้อพิพาทดังกล่าว โดยการรักษาความเป็นกลาง และให้ความสำคัญกับทั้งสองประเทศเท่าเทียมกัน และพยายามส่งเสริมให้ทั้งสองฝ่ายเจรจาเพื่อยุติข้อขัดแย้งโดยสันติ

 

ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ

ความสัมพันธ์ทางการค้า

          ภาพรวมการค้าไทย-อาร์เมเนีย

          การค้าระหว่างไทยกับอาร์เมเนียยังอยู่ในระดับที่ต่ำมาก และมีความไม่แน่นอน โดยอาร์เมเนียเป็นประเทศคู่ค่าลำดับสุดท้ายของไทยในกลุ่ม CIS มูลค่าการค้าสูงสุดปรากฏในปี 2542 คือ 6 แสนดอลลาร์สหรัฐ ในระยะ 4 ปีที่ผ่านมา (2541-2544) การค้าของไทยกับอาร์เมเนียมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจาก 4 แสนดอลลาร์สหรัฐในปี 2541 เป็น 582,750 ดอลลาร์สหรัฐ ปี 2542 หลังจากนั้นมูลค่าการค้าเริ่มลดลง โดยในปี 2543 มีมูลค่าการค้า 464,533 ดอลลาร์สหรัฐ และสำหรับในปี 2544 มีมูลค่าการค้าลดลงเหลือ 357,148 ดอลลาร์สหรัฐ โดยคิดเป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับมูลค่าการค้าระหว่างประเทศของไทยโดยรวม ทั้งนี้ ไทยเกินดุลการค้าอาร์เมเนียเป็นมูลค่า 336,982 ดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุเนื่องมาจากไทยมีการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับเพิ่มขึ้นอย่างมากคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 78.6 ของการส่งออกโดยรวมของไทยไปอาร์เมเนียในปี 2544 เมื่อเทียบกับปี 2543 ซึ่งไทยขาดดุลถึง 3 แสนดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุสำคัญเนื่องมาจากไทยมีการนำเข้าสินแร่โลหะอื่นๆและเศษโลหะเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 90.3 ของการนำเข้าโดยรวมในปี 2543
อนึ่ง การค้าระหว่างไทยกับอาร์เมเนียในปี 2544 มีมูลค่า 4 แสนดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นมูลค่าการส่งออก 3 แสนดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้า 1 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ

          การส่งออก

          การส่งออกของไทยไปอาร์เมเนียในระยะ 4 ปีที่ผ่านมา (2541-2544) มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 36,800 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2541 เป็น 582,750 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2542 และมีมูลค่าลดลงอย่างมากเป็น 100,173 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2543 สำหรับในปี 2544 มีมูลค่าการส่งออก 347,065ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับมูลค่าการค้าระหว่างประเทศของไทยโดยรวม หรือลดลงร้อยละ 23.12 เมื่อเทียบกับปี 2543

          สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 78.6 ของยอดส่งออกรวมของไทยในปี 2544 ตาข่ายจับปลา (สัดส่วนร้อยละ 18.4) ผลไม้กระป๋องและแปรรูป (สัดส่วนร้อยละ 2.4) เลนส์ (สัดส่วนร้อยละ 0.3) กล้วยไม้ เครื่องโทรสาร โทรพิมพ์ เครื่องโทรศัพท์และอุปกรณ์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ เครื่องกีฬาและเครื่องเล่นเกม เสื้อผ้าสำเร็จรูป เป็นต้น

-สินค้าไทยที่มีศักยภาพในการส่งออกไปยังอาร์เมเนีย ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ ตาข่ายจับปลา เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ กระดาษและเยื่อกระดาษ เครื่องกีฬา เสื้อผ้าสำเร็จรูป สิ่งทออื่นๆ ยานพาหนะและส่วนประกอบ ตู้เย็น ผ้าผืน เป็นต้น

          การนำเข้า

          การนำเข้าของไทยจากอาร์เมเนียในระยะ 4 ปีที่ผ่านมา (2541-2544) มีมูลค่าน้อยมาก คิดเป็นมูลค่า 47,808 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2541 สำหรับปี 2542 ไม่ปรากฎมูลค่าการนำเข้า และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมากเป็น 364,360 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2543 สำหรับในปี 2544 มูลค่าการนำเข้าลดลงเป็น 10,083 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 97.2 เมื่อเทียบกับปี 2543

          สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ สินแร่โลหะอื่นและเศษโลหะ ซึ่งมีสัดส่วนถึงร้อยละ 90.2 จากยอดรวมการนำเข้าทั้งหมดในปี 2544 ผลิตภัณฑ์โลหะ (สัดส่วนร้อยละ 5.7) ยาง ยางสังเคราะห์ รวมทั้งเศษยาง (สัดส่วนร้อยละ 3.8) สบู่ ผงซักฟอก และเครื่องสำอาง (สัดส่วนร้อยละ 0.2) แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ ของเล่น เครื่องเล่นกีฬา และเครื่องเล่นเกม เครื่องจักรใช้ในอุตสาหกรรม กระดาษ กระดาษแข็งและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น

- สินค้าจากอาร์เมเนียที่มีศักยภาพที่ไทยอาจพิจารณานำเข้า ได้แก่ สินแร่โลหะอื่นๆและเศษโลหะ ผลิตภัณฑ์โลหะ ยาง ยางสังเคราะห์รวมทั้งเศษยาง สบู่ ผงซักฟอก เครื่องสำอาง แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องเพชรพลอย อัญมณี ของเล่น เครื่องเล่นกีฬา เครื่องจักรใช้ในอุตสาหกรรม กระดาษ กระดาษแข็ง เป็นต้น

 

ปัญหาและอุปสรรคทางการค้า

          - สินค้าของแต่ละฝ่ายยังไม่เป็นที่รู้จักของตลาด เนื่องจากนักธุรกิจของแต่ละฝ่ายยังขาดโอกาสในการพบปะเพื่อสร้างความรู้จักซึ่งกันและกัน รวมทั้งขาดการประชาสัมพันธ์และการประสานงานเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเศรษฐกิจและการค้าทั้งในภาครัฐบาลและเอกชน

          - ระบบการผลิตของอาร์เมเนียยังคงใช้เทคโนโลยีที่ล้าหลังของอดีตสหภาพโซเวียต จึงทำให้ประสิทธิภาพการผลิตต่ำและไม่สามารถผลิตเพื่อการส่งออกได้ นอกจากนี้ อาร์เมเนียยังประสบปัญหาโดยทั่วไปในลักษณะเดียวกันกับประเทศ CIS อื่นๆคือการขาดแคลนเงินทุน อาร์เมเนียจึงสนใจที่จะดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเพื่อนำมาปรับปรุงและขยายกำลังการผลิตบนพื้นฐานของเทคโนโลยีและการจัดการสมัยใหม่มากกว่าที่จะค้าขายกันอย่างเดียว

          - อาร์เมเนียเป็นประเทศขนาดเล็ก จำนวนประชากรเพียง 3.8 ล้านคน และประชาชน มีอำนาจการซื้อจำกัด ไม่มีทางออกทะเล ตลาดมีขนาดเล็ก และถูกปิดล้อมโดยประเทศที่มีกรณีพิพาทระหว่างกัน และโดยรัฐมุสลิมที่มีปัญหาด้านความสัมพันธ์กับอาร์เมเนียเกือบรอบด้าน คือ อาเซอร์ไบจาน ตุรกี และอิหร่าน นอกจากนี้ระบบการขนส่งของประเทศยังไม่ทันสมัยและเพียงพอจึงเป็นอุปสรรคสำคัญในการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

 

การเดินทางทางอากาศ

                ผู้ที่สนใจสามารถเดินทางไปอาร์เมเนียด้วยสายการบินของ

R3

ARMAVIA ( OLD ARMENIAN AIRLINES)

DYA

ADIGEY AVIA

0S

AUSTRIAN AIRLINES

KJ

BRITISH AIRWAYS/BRITISH MEDITERRANEAN

B2

BELAVIA

CP

CASPIAN AIRLINES

G5

CHELYABINSK AIR

OK

CZECH AIRLINES

D9

DONAVIA

E5

SAMARA AIR

GM

ZAPOROZHYE AIR

KIL

KUBAN AIRLINES

PE

SARATOV AIRLINES

RB

SYRIAN AIR

PN

NIZHEGORODSKIYE AVIALINIYI

SU

AEROFLOT

6U

AIR UKRAINE

S7

SIBIR (SIBERIA AIRLINES)

5ZH

LVIV AIRLINES

U6

URAL AIRLINES

VZH

VORONEZHAVIA

YUA

ASTRAKHAN AIR

PL

PULKOVO AIRLINES

ZH5

VNUKOVO AIRLINES (รวมตัวกับ Siber Air เมื่อเดือนพฤษภาคม 2544)

ZH9

UFA AIR

 
 

การขอรับการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง

 

ผู้มีสัญชาติไทยต้องขอรับการตรวจลงตราหนังสือเดินทางโดยใช้เอกสารดังนี้

1. แบบฟอร์มการขอวีซ่าที่กรอกแล้ว (ขอได้ที่สถานกงสุลกิตติมศักดิ์อาร์เมเนียประจำประเทศไทย หรือสามารถดึงจากอินเตอร์เนทได้)

2. รูปถ่ายสีหรือขาว-ดำ ปัจจุบันจำนวน 1 รูป

3. หนังสือเดินทางที่มีอายุใช้การ

4. การขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยว เข้า-ออก 1 ครั้ง ไม่จำเป็นต้องมีหนังสือเชิญ อยู่พำนักในประเทศได้ 21 วัน หากอยู่นานกว่านั้น จะต้องขอวีซ่าประเภทอื่น และมีหนังสือเชิญอย่างเป็นทางการ

            หากพำนักเกิน 3 เดือน จะต้องมีใบอนุญาตให้พำนักในประเทศ ออกโดยกระทรวงการต่างประเทศอาร์เมเนีย หากเป็นการเดินทางผ่าน (Transit)  เพื่อเดินทางต่อไปประเทศอื่น สามารถใช้ได้ 3 วัน

 

ค่าวีซ่าและระยะเวลาที่ใช้ดำเนินการ

            18 เหรียญสหรัฐ สำหรับวีซ่าทางผ่าน เข้า-ออกครั้งเดียว ใช้เวลา 7 วัน

            36 เหรียญสหรัฐ สำหรับวีซ่าทางผ่าน เข้า-ออก 2 ครั้ง ใช้เวลา 7 วัน

            60 เหรียญสหรัฐ สำหรับวีซ่าท่องเที่ยว (21 วัน) ใช้เวลา 7 วัน

            60 เหรียญสหรัฐ สำหรับวีซ่าท่องเที่ยว (21 วัน) ใช้เวลา 7 วัน

            35 เหรียญสหรัฐ สำหรับวีซ่า และหนังสือเชิญทางการ (90 วัน) ใช้เวลา 7 วัน

            65 เหรียญสหรัฐ สำหรับวีซ่าท่องเที่ยวเข้า-ออกหลายครั้ง  (90 วัน) ใช้เวลา 7 วัน

หมายเหตุ

            หนังสือเดินทางทูตไม่เสียค่าวีซ่า

           วีซ่าเร่งด่วนภายในเวลา 3 วัน ราคา 86 เหรียญสหรัฐ และภายในเวลา 24 ชม. ราคา 95 เหรียญสหรัฐ  เด็กอายุต่ำหว่า 16 ปี ไม่ต้องเสียค่าวีซ่า

 
 
 
* * * * * * * * * * * *
 
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก